3 บาร์ เหล้า เท่ ๆ
รวมทุกบาร์น่านั่งทั้งเปิดใหม่และเจ้าเก่าที่การันตีว่าไม่ได้มีแค่อาหารอร่อย
1.Gasper
Gasper ไม่ได้อยู่ในซอยนานาซะทีเดียว แต่ถือว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด เพราะเดินลัดตรอกเล็กๆ หน้าร้าน Ba Hao และ Biscuit Bar ไปยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว โดยร้านจะอยู่บนชั้น 2 ของร้านอาหารโณณ (Choen) เดินอ้อมไปด้านหลังจะเจอทางขึ้นด้วยความที่เพื่อนบ้านมีแต่บาร์ค็อกเทลสายแข็ง Gasper เลยฉีกมาเน้นขายไวบ์สนุกๆ ฟีลปาร์ตี้แบบมาที่เดียวจบทั้ง Drink & Dance โดยจะมีดีเจ – ส่วนมากเป็นแนวฮิปฮอป มาสร้างสีสันทุกๆ คืนวันพุธ-อาทิตย์ จะนั่งโยกจอยๆ หรือลุกขึ้นเต้นก็ได้ภายใต้บรรยากาศของบาร์ค็อกเทลพื้นที่ของร้านเป็นขนาดที่เราว่ากำลังดี คือไม่ได้กว้างมากแต่ก็ไม่เล็กจนต้องแย่งอากาศหายใจ ที่นั่งก็มีแบบพอดีๆ เหลือที่ให้เดินได้สะดวก (จริงๆ คือเผื่อไว้ให้ลุกขึ้นเต้น) และภายในร้านจะตกแต่งด้วยต้นไม้จริงทั้งหมด มองไปมุมไหนก็เจอสีเขียว ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนนั่งจิบในห้องนั่งเล่น
ชื่อร้านเป็นคำสแลงที่ใช้เรียก ‘มวนกัญชา’ อย่างไม่เป็นทางการ เพราะหนึ่งในทีมผู้ก่อตั้งบาร์เปิดร้านขายกัญชาและในอนาคตก็จะขายที่นี่ด้วย แต่ตอนนี้มานั่งดื่มกันก่อน ค็อกเทลที่นี่เน้นแนวรีเฟรชชิ่ง เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็เข้าถึงได้ ร้านเปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 01.00 น.
2.Lucky Duck
บาร์แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของ ‘คุณอู้ พหลโยธิน’ ดีไซเนอร์ฝีมือดีผู้ชื่นชอบการออกแบบร้านอาหารและบาร์ และอยากลองเป็นเจ้าของบาร์ดูสักครั้ง พอมีโอกาสเลยตั้งใจลงมือปลุกปั้นเองทุกอย่างตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์ร้าน การออกแบบ ตกแต่ง ไปจนถึงมีส่วนร่วมในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่ม ชื่อ Lucky Duck เป็นชื่อยอดนิยมของร้านเป็ดย่างที่พบเห็นได้ทั่วไปตามไชน่าทาวน์ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก แล้วด้วยความตั้งใจที่อยากให้บาร์นี้มีลูกเล่นสนุกๆ แบบบาร์ลับและบาร์ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ ก็เลยเอาชื่อร้านเป็ดย่างมาตั้งเป็นชื่อบาร์ พร้อมกับตั้งตู้เป็ดย่างหลอกๆ ที่หน้าร้าน 2 ตู้ ให้ดูเป็นร้านเป็ดย่างจริงๆ ใครกะจะมาสั่งข้าวหน้าเป็ดผิดหวังแน่นอน เพราะหลังตู้เป็ดย่างคือบาร์สวยฉ่ำสไตล์ Amarican Art Deco แฝงกลิ่นอายความเป็นจีน ซึ่งคุณอู้จินตนาการถึงการตกแต่งอพาร์ตเมนต์ของนักแสดงสาวชาวเซี่ยงไฮ้ในฮอลลีวูดช่วงยุค 1920 แล้วถอดแบบออกมา กลายเป็นบาร์ที่มีทั้งความวินเทจ เปรี้ยวและเย้ายวนอยู่ในที ถ่ายทอดสไตล์อันเป็นอกลักษณ์ของคุณอู้ไว้ได้อย่างไร้ที่ติ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ และของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่ก็มาจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของคุณอู้ที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็ไม่หนีจากความเป็นจีน เพราะแรงบันดาลใจมาจาก Chinese Cinema ซึ่งคุณอู้ได้ร่วมกับ ‘คุณปอ-ไพศาล วรรณศิริวิไล’ บาร์เทนเดอร์ ตีความหนังจีนเรื่องดังให้เป็นค็อกเทล
Lucky Duck อยู่บนชั้น 3 ของ Contento ถนนไมตรีจิตต์ เปิดทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 19.00 – 01.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร. 090 898 2397
3.BTF: Bees Things Flowers
บาร์บรรยากาศสบายๆ ที่อยู่บนชั้น 3 ของตึกเก่าทรงยุโรปอายุราว 70 ปี ตรงหัวมุมถนนไมตรีจิตต์ (ตึกเดียวกันกับร้าน Contento) ที่ภายในยังคงเก็บรายละเอียดการตกแต่งแบบเดิมไว้ครบทั้งเสา แชนเดอร์เลีย ประตู หน้าต่าง ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความคลาสสิกทันทีที่เข้าไปในร้าน“Just bees and things and flowers” ท่อนหนึ่งจากเพลง Everybody loves sunshine ของ Roy Ayers คือแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อร้าน เพราะเจ้าของร้านรู้สึกว่าตรงกับมู้ดของร้านที่อยากให้ทุกคนที่เข้ามารู้สึกสบายๆ ไม่ต้องอะไรมาก อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับสิ่งที่ชอบ เอ็นจอยกับบรรยาศรอบๆ ตัวตอนนี้ที่ร้านจะเน้นเสิร์ฟคลาสสิกค็อกเทล คาแร็กเตอร์ของดริงก์จะค่อนข้างชัดเจน บางแก้วถ้าแรงก็จะแรงไปเลย ส่วนค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่จะตามาแน่ๆ ในอนาคตทางร้านก็จะพยายามหาวัตถุดิบโลคัลจากย่านใกล้เคียงมาใช้ อาจจะเป็นยาจีนจากย่านเยาราช เช่นเดียวกับอาหารก็จะพยายามปรุงเมนูฝรั่งในแบบของตัวเองโดยใส่ความเป็นไทยลงไปแนะนำค็อกเทลที่เราชิมมาคือ Mud Angle คลาสสิกค็อกเทลเบสจิน ผสม Aperitif ที่มีเทสต์โน๊ตเหมือนรูตเบียร์ กับโรสแมรี่ไซรัปและไข่ขาว แก้วนี้ดื่มง่าย ต่อด้วย Flow Fashion ที่มีความคล้าย Old Fashion แต่จะมีส่วนผสมของเหล้ากาแฟ แก้วนี้แรกจิบจะเจอกาแฟก่อน แล้วท้ายๆ จะเป็นไรย์วิสกี้ และอีกแก้วจะเป็น Amaretto Sour คล้ายๆ Whiskey Sour แต่ดื่มง่ายกว่า แอลกอฮอล์ต่ำกว่า เพราะใช้ลิเคียว Amaretto ที่มีเบสเป็นอัลมอนด์และเฮิร์บแทนวิสกี้นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชาที่เป็นของทางร้านเองมาวางขายด้วย – จริงๆ เจ้าของตั้งใจจะเปิดบาร์กัญชาไปเลย แต่รู้สึกเสียดายพื้นที่เพราะอาจจะเฉพาะกลุ่มเกินไป
Bees Things Flowers อยู่ที่หัวมุมถนนไมตรีจิตต์ ร้านเปิดทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.